อีแจอุค และ โกยุนจอง สองนักแสดงหลักจากซีรีส์แนวแฟนตาซีชื่อดัง Alchemy of Souls พาร์ท 2 ที่กำลังออกอากาศทางช่อง tvN อยู่ในขณะนี้ ได้มีโอกาสถ่ายแบบด้วยกันผ่านนิตยสาร Elle ฉบับเดือนมกราคม พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงความประทับใจของทั้งสองที่มีให้ต่อกัน ขณะกำลังถ่ายทำซีรีส์เรื่องดังกล่าวเนื่องจากว่าในผลงานนี้นับเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่าง อีแจอุค และ GO YOON JUNG
ทางด้านของ GO YOON JUNG จึงได้เปิดเผยความรู้สึกถึงการร่วมงานกันในคราวนี้ว่า “ฉันรู้อยู่แล้วค่ะว่าอีแจอุคเป็นนักแสดงที่ดี แต่อีแจอุคที่ฉันเห็นในกองถ่ายนั้นได้แสดงให้เห็นถึงทักษะการแสดงที่เหนือความคาดหมายมากกว่านั้นค่ะ ซึ่งก่อนหน้านั้นฉันค่อนข้างประหลาดใจกับภาพลักษณ์ที่มีความเป็นผู้ใหญ่ของเขา แต่ฉันก็กลับประหลาดใจกับภาพลักษณ์ที่น่ารักและน่าเอ็นดูของเขาอีกครั้งในภายหลังค่ะ”
ซึ่งทางด้านของ อีแจอุค ก็ยังได้กล่าวชื่นชอบ
ในฐานะนักแสดงนำหญิงคนใหม่อีกด้วยว่า “สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะปรับคาแรกเตอร์ของจางอุคให้เข้ากับเรื่องราวใหม่ของซีรีส์ที่ผ่านไปแล้วกว่าสามปี แต่ผมมั่นใจว่าพี่GO YOON JUNGคงจะลำบากมากกว่า แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ตาม พี่เขาก็ติดต่อมาหาผมเพื่อซ้อมบทด้วยกัน ผมจึงประทับใจในแพชชั่นของพี่เขามากจริง ๆ ครับ”
และเหตุเพราะซีรีส์ Alchemy of Souls พาร์ท 2
เป็นซีรีส์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยการผสมผสานกันระหว่างศิลปะการต่อสู้ ความแฟนตาซี และความโรแมนติกเข้าไว้ด้วยกัน
ทั้งสองก็เลยต่างให้คำตอบที่คล้ายคลึงกันเมื่อถูกถามถึงฉากที่ท้าทายความสามารถและประทับใจมากที่สุด
โดยทางด้านของ โกยุนจอง ได้เลือกฉากแอคชั่นเป็นคำตอบ พร้อมด้วยเผยว่า “มีหลากหลายฉากที่มีพวกเราสองคนรวมทั้งยังเป็นสถานการณ์ต่าง ๆ ที่
คล้ายคลึงกันค่ะ ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงพึ่งพาซึ่งกันและกันเป็นอย่างมาก
และเมื่อเขาต้องเข้าฉากกับนักแสดงท่านอื่นๆที่ไม่ใช่ฉัน ฉันก็คิดสงสัยว่าเขาจะทำได้ดีหรือเปล่า”
ซึ่งทางด้านของ อีแจอุค ก็เห็นด้วยกับ โกยุนจอง
รวมทั้งยังได้กล่าวเสริมอีกด้วยว่า
“พวกเราได้สร้างความรู้สึกเชื่อมโยงขึ้นมาจริง ๆ ครับ บางครั้งผมก็รู้สึกอิจฉา เพราะผมอยากให้ฉากที่พี่เขาถ่ายกับผมเป็นฉากที่สวยและเจ็บปวดใจมากที่สุดในซีรีส์ครับ”
Alchemy of Souls เป็นซีรีส์แนวแฟนตาซี-ย้อนยุค ที่ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอาณาจักรแดโฮ
ดินแดนที่ไม่ปรากฏอยู่บนแผนที่หรือในประวัติศาสตร์จริง เหล่าจอมเวทย์เจอเจอกับชะตาชีวิตที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากวิชาแปรวิญญาณ
ถ่ายทอดผ่านความสามารถของนักเขียนบทมีชื่อเสียง 2 พี่น้องตระกูลฮง (ฮงซิสเตอร์) ที่เขียนบทซีรีส์ดังมากมาย เช่น Hotel del Luna, A Korean Odyssey, Master’s Sun เป็นต้น
ซีรีส์ Alchemy of Souls พาร์ท 2 ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง tvN รวมทั้งสามารถรับดูซับไทยถูกลิขสิทธิ์ได้ทาง Netflix
เปิดประวัติ ‘โกยุนจอง’ จากนางแบบโฆษณา สู่นักแสดงดาวรุ่งน่าจับตา ผู้สะกดทุกสายตาในซีรีส์ Alchemy of Souls พาร์ท 2
โกยุนจอง นับว่าเป็นนักแสดงอีกหนึ่งคนที่แฟน ๆ จับตาดูเธอตั้งแต่แรกเห็น
เนื่องจากหากแม้ในเรื่องที่ผ่าน ๆ มาของเธอ จะได้รับบทเป็นเพียงแค่นักแสดงสมทบแล้วก็รับเชิญ
แต่ออร่าของเธอที่โลดแล่นอยู่ในจอแก้วกลับจับใจคนดูได้อยู่มัดในทุก ๆ การแสดงตัว ชนิดที่ว่าถ้าเกิดฉากไหนเธอได้ออกมาโซเชียลแทบจะแตกเมื่อนั้น
เนื่องจากว่าทุกคนพร้อมใจกันพูดถึงเธอกันถ้วนหน้า รวมทั้งในที่สุด GO YOON JUNG ก็ได้รับบทนำสุดกำลังเป็นครั้งแรก แล้วในซีรีส์ย้อนยุค-แฟนตาซี Alchemy of Souls: Light and Shadow (2022) หรือ Alchemy of Souls พาร์ท 2 ในบทบาทของ จินบูยอน / นักซู
GO YOON JUNG / 고윤정 เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน 1996
เดี๋ยวนี้อายุ 26 ปี สำเร็จการศึกษาจาก คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสตรีโซล (Seoul Women’s’ University)
อยู่ภายใต้สังกัดนางแบบ MAA management โดยเธอก้าวเข้าวงการจากการเป็นนางแบบโฆษณาให้กับหลากหลายแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดัง
เช่น Ritz Crackers, Nike, Dior, Giorgio Armani, Sports รวมทั้งอีกมากมาย
ซึ่งเส้นทางการเดบิวต์เป็นนักแสดงที่เข้ามาโลดแล่นในจอแก้วของเธอ เริ่มต้นขึ้นในปี 2019 ผ่านผลงานซีรีส์เรื่องแรกอย่าง He is Psychometric ในบทบาทของ คิมซูฮยอน เพื่อนสมัยม. ปลายของยุนแจอินที่ตั้งครรภ์ในวัยเรียน
ในปีเดียวกันนี้GO YOON JUNG ยังเริ่มเป็นที่สนใจ จากคลิปวิดีโอโฆษณา แคมเปญ 0TEEN ของ SK Telecom ที่ความสวยเด่นของเธอสะดุดตา
และก็ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น กระทั่งทำใครผู้คนจำนวนมากอยากรู้ว่า เธอคือใคร ล่าสุด GO YOON JUNG ได้ก้าวขึ้นมารับบทนำอย่างเต็มตัว ในซีรีส์แฟนตาซี Alchemy of Souls: Light and Shadow (2022)
หรือ Alchemy of Souls พาร์ท 2 ในบทบาทของหญิงสาวที่ไร้ความทรงจำ ที่ปัจจุบันเป็นที่รู้จักในฐานะ จินบูยอน ลูกสาวคนโตของจินโยวอน
ที่ภายในเป็นวิญญาณของ นักซู ซึ่ง GO YOON JUNG ได้เปิดเผยความงามที่ไร้ที่ติ และสามารถถ่ายทอดการแสดงออกมาได้อย่างดี สานต่อคาแรคเตอร์ตัวละครนำหญิงได้อย่างไร้รอยต่อ